คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ Welcome To Blogger (E-Portfolio Subject to the science Experiences Management for Early Childhood)

Monday, July 15, 2013

Study notes No.5

วันนี้อาจารย์ให้นำเสนองานสิ่งประดิษฐ์ของเล่นวิทยาศาสตร์ทุกคน และพร้อมให้คำแนะนำ ในการประดิษฐ์อาจารย์ได้แบ่งออกเป็น 3 ชิ้น คือ
         1.งานประดิษฐ์ของเล่น
         2.งานประดิษฐ์ที่ใช้ในมุมวิทยาศาสตร์
         3.งานประดิษฐ์สำหรับทดลอง

สิ่งประดิษฐ์ชิ้นที่ 1 งานประดิษฐ์ของเล่น (โยโย่)

อุปกรณ์

            1.แกนม้วนด้าย
            2.เชือก
วิธีทำ

            ใช้เชือกผูกกับแกนด้าย แล้วม้วนเชือกให้ยาวพอประมาณที่จะทำให้แกนด้ายม้วนโดยไม่หลุดออกจากเชือก และเมื่อปล่อยลงเชือกไม่ยาวจนเกินไป สุดท้ายผูกเชือกตรงปลายที่เลือกให้เป็นห่วง เพื่อสำหรับสอดนิ้วเข้าไป

วิธีเล่น

            จับปลายเชือกด้านที่เป็นห่วง แล้วพันเชือกรอบแกนหมุนของโยโย่ จากนั้นโยนโยโย่ลง แล้วรีบกระตุกเชือกขึ้นมาทันที

หลักการทางวิทยาศาสตร์ของโยโย่

            เมื่อเริ่มพันเชือกรอบแกนโยโย่ จนหมดเส้นเชือก ถือไว้ด้วยมือ ให้อยู่สูงจากพื้น เพื่อเพิ่มพลังงานศักย์โน้มถ่วง    เมื่อผู้เล่นขว้างโยโย่ ให้กลิ้งลงข้างล่างพลังงานศักย์โน้มถ่วงนี้จะเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์และพลังงานของการหมุน ขณะที่โยโย่ ถูกเหวี่ยงลงข้างล่าง   ความเร็วของลูกดิ่งจะเพิ่มขึ้น  หมายความว่า พลังงานจลน์เพิ่มขึ้นด้วย  เราอาจพูดว่า มีโมเมนตัมเชิงเส้นเพิ่มขึ้นก็ได้  ในเวลาเดียวกันที่เชือกคลายตัว  ลูกดิ่งจะหมุน  ยิ่งเชือกคลายตัวออกมากเท่าไร  ลูกดิ่งยิ่งหมุนเร็วเท่านั้น

- อาจารย์ได้เปิด VDO
- รายการ iSci ความฉลาดแบบยกกำลังสอง ทางช่อง Thaipes

 เรื่อง ลูกโป่งรับน้ำหนัก



เพราะอะไร ?

เหตุที่ลูกโป่งพองลมสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าที่เราคิด เป็นเพราะน้ำหนักที่วางบนแผ่นกระดานกระจายไปทั่วๆแผ่นกระดานประกอบกับแรงดันอากาศจากลูกโป่งทุกลุกที่วางไว้จึงทำให้ลุกโป่งรับได้โดยไม่แตก

        -รายการ รู้รอบโลกวิทยาศาสตร์

        เรื่องเมล็ดจะงอกไหม



             
       ประยุกต์ใช้อย่างไร ?

             - นำไปประยุกต์ใช้คือ การนำวัสดุที่เหลือใช้มารีไซเคิลใหม่และสร้างสรรค์ให้เป็นผลงานที่สามารถใช้ประโยชน์และเรียนรู้ได้

 ** งานที่ได้รับมอบหมาย
                
                 ให้นำอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์ของเล่นมา 2 ชุด เพื่อสอนเพื่อนอีกคน




No comments:

Post a Comment