สรุปวิจัย เรื่อง Developing of basic science
process skills of young children using creative art model for learning
การพัฒนากระบวนการวิทยาศาสตร์พื้นฐานของเด็กปฐมวัยโดยการใช้รูปแบบกิจกรรม
ศิลปสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ (ณัฐชุดา สาครเจริญ)
จุดมุ่งหมายของการวิจัย
- เพื่อศึกษาระดับพัฒนาการทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์พื้นฐานของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
-เพื่อจัดให้เด็กได้รับการจัดกิจกรรมการใช้รูปแบบกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์
ความสำคัญของการวิจัย
การศึกษาครั้งนี้จะเป็นแนวทางสำหรับครู
ในการใช้นวัตกรรมการเรียนการสอนโดยการนำกระบวนวิธีของศิลปะรูปแบบต่างๆ
มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับพัฒนาการและศักยภาพของเด็กปฐมวัย
โดยเน้นการพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กปฐมวัย
ผลการวิจัยที่ได้จะเป็นแนวทางให้ครูและผู้ที่เกี่ยวข้องได้พัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ใหม่ๆ
ให้แก่เด็กปฐมวัย
เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของการศึกษา
ตามแนวการปฏิรูปการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพที่ครูสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานด้านต่างๆ
ได้
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย
- เด็กนักเรียนชาย-หญิง
อายุระหว่าง 5-6 ปี ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา 2547 โรงเรียนสามเสนนอก (ประชาราษฎร์อนุกูล) สังกัดสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร
ตัวแปรที่ศึกษา
- ตัวแปรอิสระ
ได้แก่ รูปแบบกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
- ตัวแปรตาม
ได้แก่ ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ 6 ดังนี้
1. การสังเกต
2. การจำแนก
3. การวัด
4. การมิติสัมพันธ์
5. การสื่อสาร
6. การลงความเห็น
เนื้อหา
ศิลปะ หมายถึง
การแสดงออกถ่ายทอดออกมาโดยผ่านสื่อผลงานซึ่งเป็นการสื่อสารความคิด ความรู้สึกต่างๆ
ที่เด็กเห็น และรับรู้โดยการใช้จินตนาการ การสังเกต การใช้ประสาทสัมผัสในการรับรู้
จนเกิดความเข้าใจในธรรมชาติ เด็กยังมีโอกาสพัฒนาความคิด
ได้รับความรู้เพิ่มพูนได้แสดงออกอย่างอิสระ
มีสุนทรียภาพและเห็นคุณค่าความงามของศิลปะ
การจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
-ขั้นกระตุ้นการเรียนรู้ ในการจัดกิจกรรมกระตุ้นให้คิดสื่อที่ใช้ประกอบคำถาม
เช่น นิทาน ภาพ เกม เพื่อจูงใจสร้างความสนใจให้กับเด็ก
โดยให้เด็กตอบคำถามอย่างอิสระ คำถามที่ครูใช้ถามประกอบสื่อจะเป็นคำถามปลายเปิดที่ใช้คำถามว่า
อย่างไร ทำไมเพราะเหตุใด
ตัวอย่างเช่น การจัดกิจกรรมรูปแบบศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
หน่วยเครื่องนอน คำถามที่ใช้คือ เครื่องนอนเด็กๆ เห็นมีอะไรบ้าง นอกจากนี้เครื่องนอนที่เห็นที่บ้านของนักเรียนมีเครื่องนอนอะไรบ้าง
-ขั้นกรองสู่มโนทัศน์
เป็นกิจกรรมที่ครูกระตุ้นให้เด็กสะท้อนคิดด้วยการโยงข้อความรู้ความเข้าใจให้มากขึ้น
เป็นกิจกรรมที่ครูต้องใช้คำถามกระตุ้นโดยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างงานศิลปะที่ทำกับการสอนวิทยาศาสตร์
กิจกรรมที่ช่วยให้เด็กเกิดมโนทัศน์ คือ วิธีสอนที่ใช้เกม
ตัวอย่างเช่น การจัดกิจกรรมรูปแบบศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
หน่วยหมู่อาหาร เช่น ก๋วยเตี๋ยวหมู พิชซ่า ข้าวไข่เจียว มาให้เด็กจำแนกตักใส่ภาชนะไปวางบนแผ่นชาร์ต
จำแนกหมู่อาหาร
-นำสู่งานศิลปะ เป็นกิจกรรมที่เด็กได้นำมโนทัศน์หรือความรู้ที่ได้ถ่ายโยงความรู้สู่งานศิลปะตามรูปแบบงานศิลปะที่ครูเลือกว่าเหมาะสมกับสิ่งที่คุณเรียน
ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้โดยผ่านประสบการณ์ตรงและได้แสดงออกถึงความคิดจินตนาการที่เกิดจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง
5
ตัวอย่างเช่น กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
หน่วยไข่เด็กศิลปะเปลี่ยนแบบ โดยการนำเปลือกไข่ที่เรียน
หรือสิ่งที่เรียนมาทำงานประดิษฐ์เปลี่ยนแบบ
-สาระที่เรียนรู้ เด็กจะสรุปมโนทัศน์ที่ได้จากการดำเนินการทั้ง 3 ขั้น ที่ผ่านมา โดยครูกับเด็กสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน
ซึ่งครูมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เด็กได้เล่าอธิบายจากชิ้นงานศิลปะ เช่น ภาพวาด
งานประดิษฐ์ งานปั้น เพื่อเป็นการตรวจสอบความเข้าใจมโนทัศน์ในสิ่งที่เรียน
ตัวอย่างเช่น การจัดกิจกรรมรูปแบบศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
หน่วยหมู่อาหาร ครูสนทนากับเด็กโดยใช้คำถามจากงานศิลปะ เช่น
ศิลปะที่เด็กวาดอยู่ใช้อาหารหมู่ใดบ้าง ศิลปะใครมีอาหารครบ 5 หมู่
สมมุติฐานการวิจัย
เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมรูปแบบการใช้ศิลปสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้มีการพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง
ผลการวิจัย
การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานของเด็กปฐมวัยหลังการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้โดยรวมและจำแนกรายทักษะอยู่ในระดับดี
และเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการทดลองพบว่าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01